Main Menu

Recent posts

#1

Kawasaki KLR650 เป็นรถรุ่นใหม่อีกรุ่นของคาวาซากิที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตัวรถได้รับการเสริมความแข็งแรงในหลายจุดและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่เมื่อมีสัมภาระ ลดแรงสั่นสะเทือนและขยายขนาดเจนเนอเรเตอร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสบายในการขับขี่ ถือว่าเป็นรถอีกรุ่นที่น่าสนใจ

Kawasaki KLR650 มีมิติตัวรถที่ไม่เลวเลยทีเดียว โดยมีความกว้างอยู่ที่ 970 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,280 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,430 มิลลิเมตร สำหรับที่นั่งคนขับขี่ เเละ 1,465 มิลลิเมตรสำหรับที่นั่งผู้โดยสาร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,540 มิลลิเมตร ส่วนความสูงใต้ท้องรถอยู่ที่ 210 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะนั่งที่ 840 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 23 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 206 กิโลกรัม

Kawasaki KLR650 นั้นมีสมรรถนะเครื่องยนต์สูบเดี่ยว โดยมีขนาด 652 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์เเบบ Liquid-cooled, 4-stroke Single มีระบบวาล์วเเบบ DOHC, 4 valves ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 100.0 x 83.0 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 9.8 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นคลัทช์เปียกหลายแผ่นแบบธรรมดา โดยมีระบบเกียร์เป็นเเบบ 5 สปีด, ย้อนกลับ โดยมีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Transistorised ส่วนระบบจ่ายเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection (ø40 x 1) โดยที่มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบไฟฟ้า

Kawasaki KLR650 นั้นมาพร้อมกับเฟรมเปลคู่ semi-double cradle ที่ได้รับความเชื่อมั่นมาอย่างยาวนานผลิตจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าเป็น ø41 mm telescopic fork ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Uni Trak, single shock with adjustable rebound damping and adjustable spring preload ระบบเบรคด้านหน้าจะเป็นเเบบ Single ø300 mm disc (Effective diameter: 273 mm), Dual piston  ระบบเบรคด้านหลังจะเป็นเเบบ Single ø240 mm disc (Effective diameter: 212 mm), Dual piston โดยที่ยางหน้ามีขนาด 90/90-21M/C 54S ส่วนยางหลังมีขนาด 130/80-17M/C 65S โดยหน้าจอเเสดงผลเป็นเเบบดิจิตอลรุ่นใหม่ LCD โดยตำแหน่งท่านั่งหลังตรงแบบเป็นธรรมชาติของโมเดลรุ่นก่อนหน้า ถูกปรับแต่งให้เป็นท่านั่งที่ปราศจากความตึงเครียดอำนวยความสะดวกต่อการขับขี่ในระยะทางไกล พร้อมลดแรงสะเทือน ส่วนตัวบอดี้นั้นมี 4 สีมาให้เลือกกันทั้งสี PEARL SOLAR YELLOW (NON ABS) (2023), สี CYPHER CAMO GRAY (ADVENTURE) (NON ABS) (2023), สี PEARL SAND KHAKI (2022) เเละสี CYPHER CAMO GRAY (ADVENTURE) (2022-2023)

สนราคาของ Kawasaki KLR650 นั้นประกาศราคาขายออกมาที่ 261,500 บาท สำหรับรถที่มีตัวถังสี PEARL SOLAR YELLOW (NON ABS) (2023) ส่วนเรทราคา 292,000 บาท จะเป็นตัวถังที่มีสี CYPHER CAMO GRAY (ADVENTURE) (NON ABS) (2023) ส่วนราคา 269,500 บาท เป็นรุ่นที่มีตัวถังสี PEARL SAND KHAKI (2022) เเละสุดท้ายรุ่นที่มีตัวถังสี CYPHER CAMO GRAY (ADVENTURE) (2022-2023) จะมีเรทราคาขายที่ 300,000 บาท
#2

รถจักรยานยนต์สายลุยจากตระกูล Ducati Scrambler ที่น่าสนใจอีกรุ่นคงหนีไม่พ้น Ducati Scrambler Desert Sled พกพาความเเรงของเครื่องยนต์เเละรูปโฉมที่พร้อมจะลุยในเส้นทางวิบาก

Ducati Scrambler Desert Sled
นั้นมีมิติตัวรถที่น่าสนใจไม่น้อย โดยมาพร้อมกับความยาว 2,200 มิลลิเมตร ส่วนความกว้างอยู่ที่ 940 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,213 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 193 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 209 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 860 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,505 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 112 มิลลิเมตร ส่วน Total steering lock อยู่ที่ 35 องศา ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 13.5 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวเเบบ Dual seat

Ducati Scrambler Desert Sled มีสมรรถนะเครื่องยนต์ดุดันด้วยเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 803 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 88 x 66 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 73 เเรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 66.2 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, 50 mm throttle body  ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น Stainless steel muffler with catalytic converter and 2 lambda probes, aluminium tail pipes มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ 1=32/13 2=30/18 3=28/21 4=26/23 5=22/22 6=24/26 อัตรา Straight cut gears, Ratio 1.85:1 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain, front spocket 15, rear sprocket 46 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Hydraulically controlled slipper and self-servo wet multiplate clutch ถือว่าเป็นรถที่มีสเปกน่าสนใจ

Ducati Scrambler Desert Sled มาพร้อมกับเฟรมเเบบ Tubular steel Trellis frame ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ 46mm fully adjustable usd forks ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Kayaba rear shock, pre-load and rebound adjustable. Aluminium double-sided swingarm ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ Ø330 mm disc, radial 4-piston calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment  ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel 3,00" x 19" ล้อหลังเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel 4,50" x 17" โดยยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli SCORPION RALLY STR 120/70 R19 ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Pirelli SCORPION� RALLY STR 170/60 R17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาทเเบบตระเเกรง แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกมองหลัง ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียเดี่ยวจอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ LCD โดยเป็นทรงกลมคลาสสิค ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีสีฟ้า Sparking Blue

ราคาขายของ Ducati Scrambler Desert Sled นั้นเคาะออกมาที่เรท 449,000 บาท
#3

Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO เป็นรถจักรยานยนต์เเรงๆ อีกรุ่นในตระกูลง Ducati Scrambler ที่พกพาสมรรถนะเครื่องยนต์มาอย่างดุดันพร้อมสัมผัสความเเรงทุกเส้นทาง

Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO มาพร้อมกับมิติตัวรถที่ลงตัว โดยมีน้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 194 กิโลกรัม ส่วนน้ำหนักรถพร้อมวิ่งจะอยู่ที่ 211 กิโลกรัม ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 810 มิลลิเมตร ความยาวของฐานล้ออยู่ที่ 1,514 มิลลิเมตร มุม Rake อยู่ที่ 24.5 องศา ส่วนระยะเทรลอยู่ที่ 111 มิลลิเมตร  ถังบรรจุเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 15 ลิตร เบาะนั่งยาวชิ้นเดียวเเบบ Dual seat

Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO นั้นมีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่เเรงเเละมีเครื่องยนต์เเบบ L-Twin, Desmodromic distribution, 2 valves per cylinder, air cooled ที่มีขุมพลังขนาด 1,079 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก อยู่ที่ 98 x 71 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11 : 1 เครื่องยนต์สามารถให้กำลัง 86 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที ส่วนเเรงบิดอยู่ที่ 88 นิวตันเมตรที่ 4,750 รอบต่อนาที ส่วนระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Electronic fuel injection, Ø55 mm throttle body with full Ride by Wire (RbW) ในขณะที่ระบบไอเสียจะเป็น 2-1-2 system with catalytic converter and 2 lambda probes, twin stainless steel muffler with aluminium covers and end caps มีระบบเกียร์เป็นเเบบ 6 speed มี Primary drive ที่ Straight cut gears, Ratio 1.85:1 อัตรา 1=37/15 2=30/17 3=28/20 4=26/22 5=24/23 6=23/24 ส่วน Final drive เป็นเเบบ Chain; Front sprocket 15; Rear sprocket 39 ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Light action, wet, multiplate clutch with hydraulic control. Self-servo action on drive, slipper action on over-run

โดยที่เฟรมของ Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO นั้นเป็นเเบบ Tubular steel Trellis frame ส่วนระบบกันสะเทือนหน้าจะเป็นเเบบ Marzocchi fully adjustable Ø45 mm usd fork ทางด้านระบบกันสะเทือนหลังจะเป็นเเบบ Progressive linkage with adjustable Kayaba monoshock, Aluminium double-sided swingarm ระบบเบรกจะมีระบบเบรกหน้าเป็นเเบบ 2 x Ø320 mm semi-floating discs, radially mounted Brembo Monobloc M4.32 callipers, 4-piston, axial pump with Bosch Cornering ABS as standard equipment ส่วนเบรกหลังจะเป็นเเบบ Ø245 mm disc, 1-piston floating calliper with Bosch Cornering ABS as standard equipment ในขณะที่ส่วนของล้อหน้าจะเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel, 3.50" x 18" ล้อหลังเป็นเเบบ Spoked aluminium wheel, 5.50" x 17" โดยที่ยางหน้าจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 120/70 ZR18 ส่วนยางหลังจะเป็นเเบบ Pirelli MT 60 RS 180/55 ZR17 โคมไฟหน้าเป็นทรงกลมดวงเดียวขนาดใหญ่มีเหล็กกันกระเเทกคาดเเบบกากบาท แฮนด์จับยาว พร้อมกระจกมองหลัง ส่วนไฟท้ายเเละไฟเลี้ยวเป็นเเบบ Full LED lights ทั้งหมด ท่อไอเสียคู่ จอเเสดงผลการขับขี่มีขนาด 4.3 นิ้ว เเบบ LCD โดยเป็นทรงกลมคลาสสิค ที่พร้อมเชื่อมต่อระบบอื่นๆ อีกหลายระบบ ตัวบอดี้มีสีเหลือง Giallo Ocra

สนราคาของ Ducati Scrambler 1100 Tribute PRO นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 579,000 บาท
#4

สุดยอดรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่ของไทรอัมพ์  อย่าง Triumph NEW TIGER 1200 RALLY EXPLORER จะมาพลิกโฉมทุกความต้องการของผู้ชื่นชอบการผจญภัย ไม่ว่าจะวิ่งตะลุยฝุ่นหรือถนนลาดยางก็สามารถขับขี่ได้อย่างสนุก

Triumph NEW TIGER 1200 RALLY EXPLORER มีแฮนด์บาร์กว้าง 849 มิลลิเมตร การ์ดแฮนด์อยู่ที่ 948 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,436-1,497 มิลลิเมตร โดยมีบังลมหน้ารถแบบปรับได้ ความสูงที่นั่ง 875-895 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,560 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 23.7 º ส่วน เทรล อยู่ที่ 112 มิลลิเมตร ถังนำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 20 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 249 กิโลกรัม โดยมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.1 ลิตร/100 กิโลเมตร ถือว่าเป็นเป็นแอดเวนเจอร์ขนาดใหญ่อีกรุ่นของไทรอัมพ์

Triumph NEW TIGER 1200 RALLY EXPLORER มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, 12 วาล์ว, DOHC, 3 สูบแถวเรียง มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,160 ซีซี กระบอกสูบขนาด 90.0 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 60.7 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 13.2:1 สามารถให้กำลังที่ 148 เเรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 130 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบต่อนาที โดยมีระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่องแบบ Multipoint พร้อมควบคุมคันเร่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  ระบบไอเสียจะเป็นระบบท่อไอเสียสแตนเลสสตีลแบบ 3 ออก 1 พร้อมปลายท่อเดี่ยวออกข้าง ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบเพลาขับ ทำงานร่วมกับระบคลัตช์ไฮดรอลิก, เปียก, หลายแผ่น, สลิปและแอสซิสท์ พร้อมด้วยระบบเกียร์เเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY EXPLORER เป็นเเบบเฟรมท่อเหล็ก พร้อมแขนค้ำอะลูมิเนียมหล่อ ซับเฟรมหลังอะลูมิเนียมสำเร็จรูปแบบยึดด้วยสกรู ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มอะลูมิเนียม "Tri-Link" แบบสองด้าน พร้อมทอร์คอาร์มอะลูมิเนียมคู่ ล้อหน้าเป็นเเบบ Spoked (Tubeless) ขนาด 21x2.15 นิ้ว ส่วนล้อหลังเป็นเเบบ Spoked (Tubeless) ขนาด 18x4.25 นิ้ว โดยที่ยางหน้ามีขนาด 90/90-21 (M/C 54V TL) ส่วนยางหลังมีขนาด 150/70R18 (M/C 70V TL) ทางด้านระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช้ค USD ขนาด 49 มิลลิเมตร ของ Showa พร้อมระบบหน่วงการคืนตัวแบบเซมิแอคทีฟ ระยะยุบตัว 220 มิลลิเมตร ในขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบโช้ค monoshock ของ Showa พร้อมระบบหน่วงการคืนตัวแบบเซมิแอคทีฟ และการปรับค่าพรีโหลดอัตโนมัติผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระยะยุบตัวล้อ 220 มิลลิเมตร ทางด้านระบบเบรกนั้น เบรกหน้าจะเป็นเเบบBrembo M4คาลิปเปอร์โมโนบล็อกแบบเรเดียล Brembo M4.30 Stylema, OC-ABS, จานเบรกคู่แบบลอยตัว 320 มม. แม่ปั๊มเบรกแบบเรเดียล Magura HC1 ที่สามารถปรับระยะได้ พร้อมกระปุกน้ำแยก Magura HC1.30 Stylema monoblock radial calipers, OC-ABS, twin 320mm floating discs. Magura HC1 span adjustable radial master cylinder with separate reservoi เบรกหลังเป็นเเบบคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว Brembo, OC-ABS, จานเดี่ยว 282 มม. แม่ปั๊มหลังพร้อมกระปุกน้ำมันแยก มีหน้าจอ TFT สีขนาด 7 นิ้้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ My Triumph โคมไฟหน้าเป็นเเบบใหม่ ตัวบอดี้มี 3 สี มาให้เลือก ทั้งสีขาว, สีเขียว เเละสีดำ

ราคาขายของ Triumph NEW TIGER 1200 RALLY EXPLORER  นั้นเคาะออกมาที่ราคา 1,039,000 บาท

#5

ออริจินัล café racer  อีกรุ่นของไทรอัมพ์ในซีรีย์ Chrome Edition อย่าง Triumph NEW THRUXTON RS CHROME EDITION ก็มาพร้อมภาพลักษณ์ความเป็นต้นแบบเวอร์ชันใหม่ ที่มีการทำสีเเบบเเฮนด์เมดด้วยความประณีต เเละมีตัวถังที่เเสนจะคลาสสิคในธีมสี Jet Black ที่ดูดีมีสไตล์

Triumph NEW THRUXTON RS CHROME EDITION มีความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 745 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,030 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 810 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,415 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 22.8º ส่วนเทรลอยู่ที่ 92 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 197 กิโลกรัม

Triumph NEW THRUXTON RS CHROME EDITION มาพร้อมกับเครื่องยนต์ในเเบบระบายความร้อนด้วยของเหลว, 8 วาล์ว, SOHC, ลูกสูบคู่ขนานแบบเยื้อง 270 องศา ที่มีขุมพลังขนาดใหญ่ 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 12.1:1 สามารถให้กำลังที่ 103 เเรงม้าที่ 7,500 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 112 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบต่อนาที โดยมีระบบการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็คทรอนิคส์แบบ Multipoint sequential ส่วนระบบท่อไอเสียเป็นแบบ 2 ออก 2 ปัดเงาพร้อมท่อเก็บเสียงปัดเงาคู่ทางด้านของไฟนอลไดรฟ์จะเป็นเเบบระบบโซ่โอริง โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์เปียกแบบหลายแผ่นพร้อมระบบผ่อนแรง ทางด้านระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

Triumph NEW THRUXTON RS CHROME EDITION
มีเฟรมเเบบโครงเหล็กคู่ ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบสวิงอาร์มอะลูมิเนียมสองก้าน ชุบผิวเปลือย โดยล้อหน้าเป็นเเบบ วงล้ออะลูมิเนียม 32 ซี่ ขนาด 17 x 3.5 นิ้ว ส่วนล้อหลังเป็นเเบบ วงล้ออะลูมิเนียม 32 ซี่ ขนาด 17 x 5 นิ้ว โดยยางหน้าเป็นเเบบ 120/70 ZR17 ยางหลังเป็นเเบบ 160/60 ZR17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบ โช้คหัวกลับแบบ Big Piston ขนาด 43 มิลลิเมตร  ของ Showa ปรับตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ โช้คหลังคู่ Öhlins พร้อมกระปุกน้ำมันแยก ปรับตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานเบรกคู่แบบลอยตัวขนาด 310 มิลลิเมตร ของ Brembo และคาลิปเปอร์โมโนบล็อก 4 ลูกสูบ Brembo M50 พร้อมระบบเบรก ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 220 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์แบบลอยของ Nissin 2 สูบ, ระบบเบรก ABS โดยทางด้านแผงหน้าปัด LCD มัลติฟังก์ชัน ที่มีพร้อมทั้งมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อก มาตรวัดอัตรารอบแบบอะนาล็อก สัญลักษณ์แสดงตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางที่วิ่งได้ก่อนน้ำมันหมด สัญลักษณ์เตือนการซ่อมบำรุง นาฬิกา ทริปคอมพิวเตอร์ ปุ่มเลื่อนและปุ่มโหมดบนแฮนด์รถ ติดตั้งปลอกมือจับปรับอุณหภูมิไฟฟ้า แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แสดงสถานะระบบควบคุมการยึดเกาะถนนและโหมดการขี่ ส่วนโคมไฟหน้าทรงกลมดวงใหญ่ 1 ดวง พร้อมไฟเลี้ยว เบาะนั่งยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ตัวบอดี้มีสีเงิน มัมวาวสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

ทางด้านราคาขายของ Triumph NEW THRUXTON RS CHROME EDITION นั้นอยู่ที่เรทราคา 714,000 บาท โดยมีการวางจำหน่ายเพียง 1 ปีเท่านั้น
#6

Triumph New Bonneville T120 Black เป็นรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิคอีกรุ่นที่ ไทรอัมพ์ ที่พกพาความดุดันมาเต็มสตรีม ทั้งในเรื่องของสมรรถนะเเละดีไซน์ที่ใครเห็นเเล้วจะต้องเหลียวหลังอย่างเเน่นอน

Triumph New Bonneville T120 Black
มาพร้อมกับมิติตัวรถที่ลงตัวเเละเหมาะสมอย่างยิ่ง โดยมีความกว้างของแฮนด์รถอยู่ที่ 785 มิลลิเมตร ความสูงไม่รวมกระจกอยู่ที่ 1,110 มิลลิเมตร ความสูงที่นั่ง 790 มิลลิเมตร ระยะระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังอยู่ที่ 1,450 มิลลิเมตร เรคอยู่ที่ 25.5 องศา ส่วนเทรลอยู่ที่ 105.2 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีขนาดความจุ 14.5 ลิตร เเละมีน้ำหนักรวมสุทธิที่ 224 กิโลกรัม อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.5 ลิตร/100 กิโลเมตร

Triumph New Bonneville T120 Black
มาพร้อมสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดุดัน โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ยนต์เเบบ ระบายความร้อนด้วยของเหลว, SOHC 8 วาล์ว, สูบคู่ขนาน องศาการจุดระเบิด 270 องศา มีขุมพลังขนาดใหญ่ถึง 1,200 ซีซี กระบอกสูบขนาด 97.6 มิลลิเมตร ส่วนระยะชักอยู่ที่ 80 มิลลิเมตร ส่วนอัตราส่วนการบีบอัดอยู่ที่ 10.0:1 สามารถให้กำลังที่ 80 เเรงม้าที่ 6,550 รอบต่อนาที โดยมีเเรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 105 นิวตันเมตรที่ 3,100 รอบต่อนาที โดยมีระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ แบบ Multipoint sequential ส่วนระบบท่อไอเสียเป็นเเบบท่อไอเสียสแตนเลสชุบโครมเมี่ยมแบบ 2 ออก 2 ท่อเก็บเสียงคู่สแตนเลสชุบโครมเมี่ยม ไฟนอลไดรฟ์ จะเป็นเเบบโซ่  โดยมันทำงานร่วมกับระบบคลัตช์แบบเปียกแบบหลายแผ่น พร้อมระบบช่วยผ่อนแรง ส่วนระบบเกียร์จะเป็นเเบบ 6 สปีด

เฟรมของ Triumph New Bonneville T120 Black
จะเป็นเเบบโครงท่อเหล็ก ส่วนสวิงอาร์มเป็นเเบบโครงเหล็กแขนคู่ ล้อหน้าจะเป็นเเบบล้อซี่ลวด วงล้อเหล็กขนาด 18 x 2.75 นิ้ว ส่วนล้อหลังจะเป็นเเบบ ล้อซี่ลวด วงล้อเหล็กขนาด 17 x 4.25 นิ้ว โดยยางหน้ามีขนาด 100/90-18 ยางหลังมีขนาด 150/70 R17 โดยที่มีระบบกันสะเทือนหน้าเป็นเเบบโช๊ค KYB 41 มิลลิเมตร, ระยะยุบตัว 120 มิลลิเมตร โดยที่ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบโช๊คสปริง KYB คู่ ปรับความแข็งได้ ระยะยุบตัวล้อหลัง 120 มิลลิเมตร  ส่วนเบรกหน้าจะเป็นเเบบจานคู่ 310 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin ลูกสูบคู่แบบลอย พร้อมระบบ ABS ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบจานเดี่ยว 255 มิลลิเมตร คาลิปเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบลอยพร้อม ABS โดยที่แผงหน้าปัดมัลติฟังก์ชั่น LCD พร้อมมาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อก มาตรวัดรอบแบบอนาล็อก มาตรวัดระยะทาง บ่งบอกตำแหน่งเกียร์ เกจน้ำมันเชื้อเพลิง ระบุระยะที่เดินทางได้ก่อนน้ำมันหมด บ่งชี้เวลาเข้ารับบริการ นาฬิกา บันทึกระยะการเดินทาง 2 ค่า อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ยและค่าปัจจุบัน แสดงสถานะระบบควบคุมการยึดเกาะถนน แสดงสถานะโหมดคันเร่ง (Riding Mode) รองรับระบบควบคุมความเร็วคงที่และปลอกมืออุ่นร้อน ไฟหน้าขนาดใหญ่ทรงกลม 1 ดวง เบาะนั่งเดี่ยวยาวจำนวน 2 ที่นั่ง ส่วนตัวบอดี้นั้นมีด้วยกัน 2 เฉดสี ทั้งสีดำเเละสีเทา-ดำ

สนราคา Triumph New Bonneville T120 Black นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 568,000 บาท
#7

Suzuki SV650X นั้นเป็นรถจักรยานยนต์ของซูซูกิเเนว Cafe Racer อีกรุ่นที่มีความคลาสสิคเเต่ก็เเฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคสมัยใหม่ต่างๆ ทำให้ทั้งสมรรถนะเเละรูปลักษณ์สามารถตอบสนองกับการขับขี่ได้เป็นอย่างดีทุกเส้นทาง

Suzuki SV650X
นั้นมีโครงสร้างตัวรถที่มีความน่าสนใจอีกรุ่นของซูซูกิ โดยที่มันมาพร้อมกับขนาความกว้างที่ 730 มิลลิเมตร ความยาวที่ 2,140 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,090 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้ออยู่ที่ 1,445 มิลลิเมตร เเละมีระยะห่างจากพื้น 135 มิลลิเมตร โดยมีความสูงเบาะนั่งที่ 790 มิลลิเมตร ถังน้ำมันเชื้อเพลิงมีความจุ 14.5 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่ 198 กิโลกรัม นับว่าเป็น Cafe Racer อีกรุ่น ที่มีโครงสร้างตัวรถขนาดใหญ่เหมือนกัน

มาดูกันต่อในเรื่องของเครื่องยนต์นั้น Suzuki SV650X มาพร้อมกับขุมกำลังเครื่องยนต์ที่มีขนาดปริมาตรกระบอกสูบ 645 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์ 4-stroke, 2-cylinder, liquid-cooled, DOHC, 90 V-Twin โดยมีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักจะอยู่ที่ 81.0 x 62.6 มิลลิเมตร ระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic ignition (Transistorized) ทำให้มีอัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 11.2 : 1 ระบบเชื้อเพลิงเป็นเเบบ Fuel injection ส่วนระบบหล่อลื่นเป็นเเบบ Wet sump มีระบบสตาร์ทเป็นเเบบ Electric โดยที่มีระบบเกียร์เป็นเเบบ ระบบเกียร์ 6-speed constant mesh นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีสมรรถนะสูง

ในส่วนของเฟรมนั้น Suzuki SV650X ได้รับการออกเเบบมาเป็นอย่างดีเเละมีความเเข็งเเกร่งสูงเป็นอย่างมาก ส่วนทางด้านของระบบกันสะเทือนหน้าก็เป็นเเบบ Telescopic, Coil Spring, Oil Damped ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นเเบบ Link Type, coil spring, Oil Damped, Spring Preload Adjustable ในขณะที่เบรกหน้าจะเป็นเเบบ Disc, Twin จาก Brembo ส่วนเบรกหลังจะเป็นแบบ Disc จาก Brembo เช่นเดียวกัน โดยที่มีขนาดยางหน้าเป็นเเบบ 120/70ZR17M/C (58W), Tubeless ส่วนขนาดยางหลัง เป็นเเบบ 160/60ZR17M/C (69W), Tubeless โดยทางด้านของโคมไฟหน้านั้นได้รับการออกเเบบให้มีลักษณะเป็นทรงกลมคลาสสิคอย่างยิ่ง โดยสามารถให้ความสว่างได้ทั้งกลางวันเเละกลางคืน โดยมีชุดครอบโคมไฟหน้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในสไตล์ของ Cafe Racer  ทางด้านของชุดเเผงหน้าปัดนั้นเป็นเเบบ Full LCD ที่มีน้ำหนักเบาเเละขนาดกะทัดรัด ให้ความสว่างได้ถึง 6 ระดับ ส่วนตัวถังน้ำมันก็ได้รับการออกเเบบให้มีความเพรียวบางสอบรับกับเบาะนั่งที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงสีน้ำตาลเข้ม สไตล์สปอร์ตเรโทร ส่วนชุดเเฮนด์นั้นได้รับการออกเเบบใหม่ให้เป็นเเบบ Clip-on Handlebar เพื่อให้สามารถขับขี่สไตล์สปอร์ตได้อย่างเเท้จริง ตัวบอดี้มีเพียงสีเดียวคือสีดำ Glass sparkle black (YVB)

สนราคาขายของ Suzuki SV650X อยู่ที่เรท 301,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่น่าคบสำหรับรถเเนว Cafe Racer เเรงๆ เเบบนี้
#8


เร้าใจไปกับ มอเตอร์ไซค์สุดล้ำแห่งปีของ GPX อย่าง GPX MAD 300MAX รถจักรยานยนต์เเนว SPORT NAKED CUSTOM DESIGN ที่รูปลักษณ์ดีไซน์แบบสุดล้ำ ที่ชวนให้คุณลุ่มหลงกับเสน่ห์ของงานดีไซน์คัสตอมที่เร้าใจบวกกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ร้อนเเรงในทุกเส้นทาง

GPX MAD 300MAX
นั้นมีมิติตัวรถ โดยมีขนาดความกว้าง 790 มิลลิเมตร ส่วนความยาวอยู่ที่ 2,025 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,090 มิลลิเมตร โดยประเภทของน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้จะเป็นเเบบ gasohol 91,95 มีความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 14 ลิตร ทำให้มีน้ำหนักสุทธิ 157 กิโลกรัม

GPX MAD 300MAX นั้นก็มีสมรรถนะเครื่องยนต์ที่น่าสนใจ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 294.4 ซีซี โดยเป็นแบบเครื่องยนต์ 4 จังหวะ DOHC ระบายความร้อนด้วย Water cooled ให้การทำงานของเครื่องยนต์ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ มีระบบจุดระเบิดเป็นเเบบ Electronic Control - FI (BOSH) พร้อมกับระบบเกียร์เเบบ 6 speed ทำงานร่วมกับโซ่เเบบ DID 428 (O-Ring)

ในส่วนเฟรมของ GPX MAD 300MAX นั้นเป็นฟรมถักรอบคัน ทำจากวัสดุเหล็กกล้า ที่แข็งแรงและช่วยคงความบาลานซ์ของตัวรถได้ในทุกองศาการขับขี่ ส่วนทางด้านของระบบกันสะเทือนนั้น โช้กอัพหน้าเป็นเเบบ Upside down ส่วนโช้กอัพหลังเป็นเเบบ โช้คแก๊ส YSS คุณภาพระดับสากล ส่วนระบบเบรกเป็นเเบบ Hydraulic Brake โดยเบรกหน้าเป็นเเบบ DOUBLE DISC BRAKE มั่นใจกับระบบเบรกด้วยระบบแบบ ดิสก์เบรกคู่ จานใหญ่สายพันธุ์สปอร์ต สามารถควบคุมการเบรกให้มั่นใจ บนทุกเส้นทาง ส่วนเบรกหลังเป็นเเบบ Disc brake ส่วนวงล้อ หน้า/หลัง เป็นเเบบ Aluminum Alloy โดยขนาดล้อหน้า 110/70-17" ส่วนขนาดล้อหลัง 150/60-17" โดยที่ยางนั้นเป็นเเบรนด์ TIRE PIRELLI ที่เป็นยางคุณภาพระดับสากล จากประเทศอิตาลี ช่วยซับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพมั่นใจทุกการเดินทาง โคมไฟหน้าเป็นเเบบ MAD LED Headlight โดดเด่นมาแต่ไกล กับความล้ำของไฟหน้า ที่ให้ความสว่าง ทั้งกลางวันและกลางคืน ดีไซน์ใหม่ ที่มาแนว โหด ดุดัน สะกดทุกสายตาตัองจับจ้อง มาพร้อมกับเทคโนโลยีอนาคตแบบ Full LED นอกจากนี้ก็มี LED Rearlight ไฟส่องสว่างขณะเบรก ให้สัญญาณที่ชัดเจนในช่วงเวลากลางคืน เรือนไมล์ เป็นเเบบ Full LCD ที่บอกฟังก์ชั่น ครบ ทุกระบบ ให้ความคมชัด ทั้งกลางวัน และกลางคืน มี Rear Cover ฟังก์ชั่นการทำงาน 3 ระบบ กันดีด บอกสัญญาณไฟเลี้ยว และป้ายทะเบียน เบาะนั่งเป็นเเบบ SPORT DOUBLE SEAT เเบบเบาะนั่ง 2 ตอน เสริมความสบายทั้งคนขี่ และคนซ้อน ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล โดยตัวบอดี้มีสีดำสีเดียวพร้อมกับสติ๊กเกอร์ ดีไซน์ลวดลายใหม่ เท่แบบมีสไตล์

ทางด้านราคาขายของ GPX MAD 300MAX นั้นอยู่ที่เรท 94,800 บาท นับว่าเป็นรถอีกรุ่นที่มีสมรรถนะสูง
#9

Honda New CB500F ดุดันด้วยฟีเจอร์ใหม่ จัดเต็มสมรรถนะ พร้อมดีไซน์สุดเท่ โดดเด่นแบบ Street Naked Bike ปราดเปรียวคล่องตัว พาคุณโลดแล่นได้อย่างเร้าใจทุกท้องถนน

Honda New CB500F มาพร้อมกับมิติตัวรถที่มีความน่าสนใจ โดยมันมีขนาดความกว้างอยู่ที่ 798 มิลลิเมตร ทางด้านความยาวอยู่ที่ 2,081 มิลลิเมตร เเละมีความสูงที่ 1,056 มิลลิเมตร โดยมีระยะห่างช่วงล้ออยู่ที่ 1,409 มิลลิเมตร ส่วนระยะห่างจากพื้นอยู่ที่ 181 มิลลิเมตร เเละมีความสูงของเบาะ 789 มิลลิเมตร ทางด้านของมุมคาสเตอร์/ระยะเทรล อยู่ที่ 25°30' / 101 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำหนักรวมสุทธิอยู่ที่ 189 กิโลกรัม เป็นอีกรุ่นที่มีขนาดน่าสนใจ

Honda New CB500F นั้นพกพาสมรรถนะเครื่องยนต์เเรงๆ ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซี โดยเป็นเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ จำนวน 2 สูบ DOHC มีความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก อยู่ที่ 67 x 46 มิลลิเมตร  อัตราส่วนแรงอัดอยู่ที่ 10.7 : 1 ส่วนระบบคลัทช์เป็นเเบบ คลัตซ์เปียกแบบหลายแผ่นซ้อนกัน โดยมีระบบส่งกำลัง M/T 6-Speed ที่ทำงานร่วมกับระบบเฟืองท้ายเเบบ โซ่ขับเคลื่อน โดยที่มี อัตราทดรอบ/เส้นรอบวงล้อ อยู่ที่ 2.733  โดยระบบจุดระเบิดเป็น Full Transistorized เเละมีระบบการติดเครื่องยนต์เป็นเเบบ สตาร์ทโดยมอเตอร์ไฟฟ้า ถือว่าเป็นรถรุ่นขนาดกลางที่มีสมรรถนะสูงอีกรุ่นของฮอนด้า

โดยที่ Honda New CB500F มาพร้อมกับเฟรมที่เเข็งเเกร่งเพราะดีไซน์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เเละมีระบบกันสะเทือนที่ทรงพลัง ด้วยโช้กอัพหัวกลับขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าช่วยดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ระบบห้ามล้อหน้าจะเป็นเเบบ Hydraulic double disc ส่วนระบบห้ามล้อหลังก็เป็นเเบบ Hydraulic disc โดยมีขนาดยางหน้า 120/70ZR17M/C(58W) ส่วนขนาดยางหลัง 160/60ZR17M/C(69W) มีหน้าปัดเเสดงข้อมูลการขับขี่เป็นทรงสปอร์ตเเสดงผลเเบบดิจิตอลเเละมีไฟบอกตำเเหน่งเกียร์ พร้อมกับที่ชาร์ตไฟสำรองเเบบ USB PORTส่วนระบบไฟทั้งโคมไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟกรอบทะเบียน จะเป็นเเบบ Full LED โดยโคมไฟหน้ามีสไตล์โฉบเฉี่ยวสวยงามเป็นอย่างยิ่ง กระจังบังลมเเข็งเเรงพร้อมปรับตำเเหน่งได้อีกด้วย สัญญาณไฟฉุกเฉินกระพริบเมื่อมีการเบรกกระทันหัน มาตรฐานระดับรถซุปเปอร์ไบค์ ตัวบอดี้มาพร้อมกับสีให้เลือก 2 สี ทั้งสีแดง GRAND PRIX RED (R-B) เเละสีดำ MAT AXIS GRAY METALLIC (BLK) เรียกว่าสวยงามทั้งสองสีตามเเต่ละสไตล์

ในเรื่องราคาของ Honda New CB500F นั้นเคาะราคาขายออกมาที่ 214,700 บาท นับว่าเป็นราคาที่มีความเหมาะสมกับสเปกของตัวรถที่จัดเต็มขนาดนี้ รับรองได้เลยว่าคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการขับขี่ในทุกเส้นทางความเร็วอย่างแน่นอน
#10


หากคุณต้องการรถจักรยานยนต์เเนวทัวร์ริ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อคุณเเล้ว Indian Roadmaster น่าจะเป็นคำตอบสำหรับคุณ เพราะมันคือสุดยอดรถจักรยานยนต์ของ Indian Motorcycle ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลังเเละสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สามารถเนรมิตการขับขี่ให้กลายเป็นสวรรค์เลยทีเดียว

โครงสร้างตัวรถของ Indian Roadmaster นั้นมีขนาดที่ใหญ่โตเป็นอย่างมาก โดยที่มันมีความยาว 2,656 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,022 มิลลิเมตร เเละมีความสูง 1,490 มิลลิเมตร Lean Angle อยู่ที่ 31 องศา ส่วน Rake อยู่ที่ 25 องศา เเละเทรลอยู่ที่ 150 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ 1,668 มิลลิเมตร ความสูงเบาะที่นั่งอยู่ที่ 673 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นอยู่ที่ 140 มิลลิเมตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 20.8 ลิตร น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 398 กิโลกรัม น้ำหนักรถเมื่อรวมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังอยู่ที่ 412 กิโลกรัม เเละน้ำหนักรถรวมบรรทุกอยู่ที่ 628 กิโลกรัม

ทางด้านของสมรรถนะเครื่องยนต์นั้น Indian Roadmaster ก็มาพร้อมกับเครื่องยนต์เเบบ Thunderstroke 116 ที่ระบายความร้อนด้วยลม มีความจุขนาดใหญ่ถึง 1,890 ซีซี มีกระบอกสูบขนาด 103.2 มิลลิเมตร X 113 มิลลิเมตร อัตรากำลังอัดอยู่ที่ 11.0:1 มีระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์เป็นเเบบ Closed loop fuel Injection / 54mm bore ให้กำลังสูงสุดที่ 3,000 รอบต่อนาที เเละมีแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 171 นิวตันเมตร พร้อมกับ Gear Drive Wet Clutch ที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์เเบบ Wet, Multi-Plate, Assist พร้อมกับเกียร์เเบบ 6 สปีด ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่มีเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ

Indian Roadmaster มีเฟรมที่ได้รับการออกแบบมาใหม่ทั้งหมดในเเบบเฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ทำให้มีความเเข็งเเกร่งเเละทรงพลังอย่างมาก โดยทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหน้าเเบบ Telescopic Fork / 119 mm ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นเเบบ Single Shock w/Air adjust / 114mm / 45.7mm ride in มีระบบเบรกล้อหน้าเป็นเเบบ Dual / 300 mm Floating Rotor / 4 Piston Caliper ส่วนเบรกล้อหลังเป็นเเบบ Single / 300 mm Floating Rotor / 2 Piston Caliper ยางหน้าเป็นเเบบ Metzeler Cruisetec 130/80B17 65H ส่วนยางหลังเป็นเเบบ Metzeler Cruisetec 180/60R16 80H โดยที่ล้อจะเป็น Highlight Machined Tour 17" x 3.5" / 16" x 5" มีท่อไอเสียเป็นเเบบ Split dual exhaust w/ cross-over มีระบบให้ความร้อนที่มือและเบาะนั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารทำให้สบายในการเดินทาง. รวมไปถึงแฟริ่งด้านข้างที่สามารถปรับการรับทิศทางของลมได้ตามที่ต้องการ พร้อมกล่องเก็บสัมภาระกันน้ำขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับระบบล็อคไฟฟ้า จอสัมผัส Ride Command ขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบ Apple CarPlay, Bluetooth และอื่นๆอีกมากมาย ที่ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายที่สุดในการเดินทาง มีลำโพงคุณภาพสูงจาก Indian Motorcycle ให้แรงขับถึง 200-watts ที่มี EQ สามารถปรับโทนเสียงที่คุณชอบ เเละมีระบบปรับระดับชิลด์หน้าไฟฟ้า ปรับได้ตามระดับที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย ตัวบอดีมีสีเดียวคือสีดำ Black Metallic

สนราคาขายของ Indian Roadmaster นั้นเริ่มต้นที่ 2,450,000 บาท